ในการประชุมประเทศภาคีพิธีสารมอนทรีออลครั้งที่ 4 ได้มีการกำหนดมาตรการแทรกแซงต่อประเทศภาคีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามพันธกรณีของพิธีสารมอนทรีออลได้ มาตรการหนึ่ง คือ การระงับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและด้านเทคนิค รวมถึงการห้ามประเทศภาคีอื่นๆ ค้าขายสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยหรือมีส่วนประกอบของสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนกับประเทศดังกล่าวเป็นการชั่วคราว จนกว่าประเทศไทยจะดำเนินการเพื่อให้ปริมาณการใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนเป็นไปตามพันธกรณีได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทย ดังนี้
หากประเทศไทยไม่สามารถซื้อขายสาร HCFCs กับประเทศภาคีอื่นได้จะทำให้
o ภาคอุตสาหกรรมของไทยขาดแคลนสารดังกล่าวในกระบวนการผลิต
o ส่งผลถึงผู้ใช้ทั่วๆ ไปตามบ้านเรือนที่จะไม่มีสารทำความเย็นมาใช้ในการซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศของตนอีกด้วย ตลอดจนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จำเป็นต้องมีการปรับอากาศ หรืออุตสาหกรรมประมงที่ประเทศไทยเป็นผู้นำรายใหญ่ของโลก
o ไม่สามารถนำเข้าสาร HCFCs ได้ จะเป็นผลทำให้เกิดการลักลอบการนำเข้า หรือทำให้เกิดการนำสารทดแทนอื่นๆ ที่ไม่ปลอดภัยมาใช้งานแทน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อช่างซ่อมบำรุง และเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้
o ทำให้ภาคอุตสาหกรรมสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดจากการส่งออก
o ถูกระงับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและด้านเทคนิค จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตไปเป็นสารทดแทน หรือต้องใช้เงินลงทุนของตัวเองในการปรับเปลี่ยน ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งทางการค้า ซึ่งล้วนแล้วแต่ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินและเทคนิคในการปรับเปลี่ยนไปใช้สารทดแทนทั้งสิ้น